วันนี้ (20 มิ.ย.) เพจปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครองได้เผยถึงความคืบหน้าเรื่องการกวาดล้างตู้คีบตุ๊กตาหยอดเหรียญ โดยใช้ชื่อ ‘ตู้ฝึกทักษะ’ ที่กระจายอยู่ทั่วตัวเมืองอุดรธานี โดยศาลได้ตัดสินแล้วว่าเป็นการพนันผิดกฎหมาย
โดยเครื่องดังกล่าว เครื่องคีบตุ๊กตานี้ เป็นเครื่องเล่นไฟฟ้าอัตโนมัติ
ซึ่งผู้เล่นต้องหยอดเหรียญ 10 บาท แล้วกดปุ่มให้เครื่องคนตุ๊กตา จากนั้นจับคันโยกเลื่อนหาตำแหน่งเพื่อคีบตุ๊กตา หากคีบได้ก็จะได้ตุ๊กตาซึ่งมีมูลค่ามากกว่าเงินที่ต้องเสียไป แต่หากคีบไม่ได้ จะได้เพียงคูปองไปใช้แลกสิ่งของซึ่งมีมูลค่าไม่เกินราคาเหรียญที่หยอด
ดังนั้น แม้จะเล่นคนเดียวก็มีการแพ้ชนะระหว่างคนกับเจ้าของเครื่องเล่น โดยสภาพเครื่องเล่นจึงไม่ได้เป็นการให้ความสนุกสนานเพลิดเพลินแก่ผู้เล่นเท่านั้น จึงเข้าข่ายการเล่นพนัน
จำเลยที่ 1 จะเป็นผู้เล่นและมีความผิดก็ต่อเมื่อรู้ว่าเครื่องเล่นไม่ได้รับอนุญาตให้จัดให้มีการเล่นขึ้น ส่วนจำเลยที่ 2 เป็นเจ้าของเครื่องเล่นและได้ประโยชน์จากเงินที่ผู้เล่นใช้หยอดใส่ลงในเครื่องเล่น ถือว่าเป็นผู้จัดให้มีการเล่นพนันดังกล่าวขึ้น
วานนี้ (15 มิ.ย.) ผู้ใช้เฟซบุ๊คนาม ‘สายแว๊น รสจืด’ ได้โพสต์นาทีเฉียดตาย ขณะขับรถอยู่กับสามีมุ่งหน้าดอยรวก ถนนสายตาก-แม่สอด อ.แม่ท้อ จ.ตาก ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อยครั้ง เนื่องจากเส้นทางคดเคี้ยว และมีทางขึ้นลงเขาตลอดเส้นทาง ขณะนั้น ผู้ขับได้ยกมือไหว้ศาล ก่อนที่รถพ่วงที่วิ่งสวนมาจะเสียหลักแหกโค้ง และสาดเมล็ดข้าวโพดจำนวนมากพุ่งใส่กระบะจนเสียหลักออกข้างทางไปเกยเหล็กกั้นถนน เคราะห์ดีที่ทั้งสองสามีภรรยาปลอดภัยทั้งคู่
ทั้งนี้ หลังจากวีดิโอนี้ถูกโพสต์ไป ก็มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นและชื่นชมในความมีสติของผู้เป็นภรรยาในการประคองรถขณะเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม ได้มีความพยายามในการแก้ไขและปรับโครงสร้างของถนนดอยรวก หรือที่ชาวบ้านขนานนามว่า ‘ดอยร้อยศพ’ นี้ ให้มีความปลอดภัยมากขึ้นแล้วก่อนหน้านี้ แต่ก็ยังมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้หากขับขี่อย่างประมาท
ทลายสำนักทรง ‘หมอแจ็ค’ ลวงผู้หญิงข่มขืน อ้างทำพิธีเสริมชะตา วันนี้ (20 มิ.ย.) ตำรวจสภ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น บุกจับตัวนายสุรศักดิ์ ภักดีสุวรรณ หรือ หมอแจ๊ค อายุ 28 ปีที่สำนักทรงเจ้าเสริมชะตา หลังเจ้าตัวได้ลวงหญิงสาว 3 รายมาข่มขืน
สำนักทรงเจ้านี้ส่วนใหญ่จะมีลูกค้าเป็นหญิงสาวอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไป นายสุรศักดิ์จะให้ลูกค้ามาที่บ้านและเข้ามาในห้องที่มีเครื่องบวงสรวง โดยการทำพิธีจะต้องให้หญิงสาวถอดเสื้อผ้าออกหมด ก่อนทำพิธีต้องลงอักขระทั้งตัว หลังทำพิธีต้องทำพิธีอุดอักขระด้วยการปิดทวารร่างกายทั้งหมด ซึ่งประกอบด้วยการล่วงละเมิดทางเพศ โดยนายสุรศักดิ์อ้างว่าผู้หญิงที่มาทำพิธียินยอมทุกคน
นายสุรศักดิ์อ้างว่าผู้ปกครองหรือผู้ติดตามสามารถรับรู้พิธีการได้ทั้งหมด แต่เจ้าหน้าที่ไม่เชื่อเพราะระหว่างทำพิธีมีการล็อกกลอนประตู มีผู้เสียหายอยู่ด้านในกับนายสุรศักดิ์เพียงลำพัง โดยขณะนี้มีผู้เข้าให้ปากคำแล้วจำนวน 3 คน
นศท.มีเฮ! ไม่ต้องตัดผมเกรียนเรียนรด. ไว้รองทรงสูงได้
วานนี้ (19 มิ.ย.) วาสนา นาน่วม ผู้สื่อข่าวสายทหาร หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ เผยในเฟสบุ๊กส่วนตัวว่า ‘รด.เฮ! ทบ. ผ่อนคลายระเบียบ ไม่ต้องเกรียน’
โดยระบุว่า พล.ท.ปราการ ปทะวานิช หรือ บิ๊กแย้ม ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน (ผบ.นรด.) เผยว่า จะมีการปรับหลักสูตรการเรียนของนักศึกษาวิชาทหาร (นศท.) ชั้นปีที่ 1-5 ใหม่ โดยใช้ ‘ระบบนักเรียนเป็นศูนย์กลาง’ และ Active Learning ให้ นศท. และครูฝึกมีส่วนร่วมกัน อีกทั้งจะมีการปรับการเรียนให้มีความทันสมัย แต่ยังคงเน้นการมีระเบียบวินัย ความเป็นผู้นำ มีจิตอาสา มีความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์อยู่
ทั้งนี้ จะมีการผ่อนผันและทดลองให้นศท.ไว้ผมรองทรงสูงจากเดิมที่ตัดผมเกรียน ข้างขาว เนื่องจากนศท.ไม่ใช่ทหารประจำการ โดยให้นศท.ชาย ชั้นปีที่ 1-3 ไว้ผมรองทรงสูง ผมยาวด้านหน้าได้ไม่เกิน 5 ซม. ส่วน นศท.ชาย ชั้นปีที่ 4-5 ผมยาวด้านหน้าไม่เกิน 7 ซม. เริ่มปีการศึกษา 2562 ในเดือน ก.ค.นี้ จากนั้นก็จะมีการประเมินผล วัดความพึงพอใจทั้งจากตัวนศท.เองและผู้ปกครองด้วย
นอกจากนี้ ผู้อำนวยการสำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร ชี้แจงกับ MGR Online ว่า ได้มีประชาชนร้องเรียนเข้ามาว่าบริเวณทางเท้าดังกล่าว เวลาฝนตกแล้วพื้นลื่น เพราะใช้พื้นแกรนิต เมื่อ กทม. มีโครงการปรับปรุงทางเท้าถนนสุขุมวิท ระหว่างทางรถไฟสายเก่า บริเวณใต้ทางด่วนด่านเพลินจิต ถึงแยกอโศก ทั้งขาเข้าและขาออกให้เหมือนกันตลอดแนว ได้เข้าไปพูดคุยกับทางเจ้าของโรงแรมให้ช่วยปรับปรุงทางเท้า เพราะชาวบ้านร้องเรียนมา แต่ก็ไม่ทำ ทางโรงแรมจึงให้ กทม. รื้อทางเท้าเดิมแล้วปรับปรุงให้เหมือนกันในคราวเดียว
สอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุผู้เคราะห์ร้ายทั้งหมดได้นั่งล้อมวงรับประทานอาหารที่ห้องครัวด้านหลัง ต่อมาได้ยินเสียงอาคารลั่นบริเวณคานรับน้ำหนัก แต่ไม่คาดคิดว่าตึกจะถล่ม จึงไม่ได้ระวัง กระทั่งไม่นานตึกก็ได้ถล่มเสียงดังสนั่น จากการตรวจสอบเบื้องต้นคาดว่าสาเหตุที่ทำให้อาคารถล่มพังทั้งหลัง เนื่องจากเป็นอาคารเก่าสร้างมานานกว่า 10 ปี อาจมีปัญหาโครงสร้างเดิมไม่แข็งและจะต้องแจ้งให้วิศวกรสำนักงานโยธาธิการจังหวัดตรวจสอบภายหลังว่ามีการต่อเติมอาคารหรือไม่ ทำให้อาคารเดิมรับน้ำหนักไม่ไหวเป็นเหตุให้อาคารพังถล่ม